สรุปสาระสำคัญ ฉบับย่อ จาก SE Class ครั้งที่ 12 หัวข้อ “ปรับ ขยับ ปั้น Brand สไตล์ SE กับ FlowFolk”

SE Class ครั้งที่ 12 หัวข้อ “ปรับ ขยับ ปั้น Brand สไตล์ SE กับ FlowFolk"
  • คำถาม: Branding ในมุมมองของคุณอุ๋ย คืออะไร
    “Branding ไม่ใช่แค่สิ่งที่ธุรกิจมีอะไรที่จะต้องจับต้องได้เท่านั้น แต่นักพัฒนาผลิตภัณฑ์และนักสร้างแบรนด์จะต้องเข้าใจสิ่งที่จับต้องได้ และสิ่งที่จับต้องไม่ได้ ให้นำมาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ผ่านการตลาด Branding ที่ทั้งสองอย่างจะต้องไปด้วยกัน ดังนั้นการสร้าง Branding ผู้ที่สร้างแบรนด์ต้องเข้าใจ และมาจากใจ ของผู้สร้างแบรนด์ก่อนว่าต้องการจะสื่อสารอะไรในผลิตภัณฑ์นี้ไปยังลูกค้า”
  • คำถาม: วิธีการขยับ ปรับ ปั้น Branding ให้โดนใจลูกค้าต้องทำอย่างไรบ้าง
    “ผลิตภัณฑ์เยอะมาก จะทำอย่างไรให้ทั้งหมดที่ตั้งใจทำขึ้นมา จะเข้าไปอยู่ใจลูกค้านั้น เราต้องใจก่อนว่าต้นตอของการสร้างแบรนด์จะต้องจริงใจที่สุด ตรงไปตรงมา และสื่อสารอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด และต้องรู้ก่อนว่าอยากสื่อสารอะไรให้กับลูกค้าผ่านการทำแบรนด์ ซึ่งอีกวิธีการหนึ่งคือ การให้ลูกค้ามาร่วม co-creation และมา co-design ด้วยกันเลย”
  • คำถาม: ระหว่าง SE Branding vs Business Branding ต่างกันยังไง
    “คำว่า SE Branding เป็นส่วนหนึ่งของ Business Branding แต่เราต้องสะท้อนคำว่า SE ในแต่ประเด็นให้ได้อย่างตรงไปตรงมาและตรงจุด เพื่อให้ Target Customer หรือกลุ่มคนที่จะทำงานในองค์กร เข้าถึงได้ และต้องสะท้อนทุกอย่างเกี่ยวกับ SE ให้ได้ เช่น จะขายสินค้าหรือบริการนี้ให้ใคร ขายเพื่ออะไร เป็นต้น”
  • คำถาม: การสร้างแบรนด์ ถ้า SE นำมาใช้แล้วจะได้อะไร และมีผลอย่างไรต่อลูกค้าของ SE
    “ SE ต้องเข้าใจก่อนว่าจะส่งมอบคุณค่าอะไรให้กับลูกค้า เช่น ถ้าบอกว่าแบรนด์ต้องสวย สวยอย่างไร ถ้ามีกลุ่มลูกค้าที่กำหนดชัดเจนอยู่แล้ว ก็รู้ได้เลยว่าลูกค้าชอบความสวยแบบไหน Branding เป็นสิ่งที่จำเป็นในเรื่องของการสื่อสารสิ่งที่เราต้องการจะสื่อไปยังลูกค้า และเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากต่อการจดจำและเข้าใจสินค้าหรือบริการของเรามากขึ้น โดยจะต้องสื่อสารทั้งลูกค้าภายนอกและสื่อสารภายในคือคนที่ทำงานหรือพนักงานในองค์กร เพื่อให้มองเห็นเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน และจะสามารถเพื่อส่งมอบคุณค่าเดียวกันไปยังลูกค้าได้”
  • คำถาม: มีเทคนิคการบริหารบุคคลในองค์กรอย่างไรให้เข้าใจ Branding ที่ผู้สร้างแบรนด์ต้องการจะสื่อ
    “คุยกันบ่อย ๆ ว่า Mood and Tone และ Brand DNA มีความเข้าใจตรงกันหรือไม่ เพราะแบรนด์อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด และต้องคอยเช็คแบรนด์อยู่เสมอว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือจะต้องปรับเปลี่ยน ปรับปรุงอะไรบ้าง”
  • คำถาม: คนทำ SE ต้องคำนึงถึงเรื่องอะไรบ้าง ก่อนที่จะหยิบสิ่งที่มีของตนเองมาใช้ หรือต้องระมัดระวังในเรื่องอะไรบ้างไหม
    “กระบวนการสร้างแบรนด์ ต้องมี Vision, Mission, Value, Mood and Tone และ Brand DNA ซึ่งมันจะต้องออกมาจากข้างในของคนสร้างแบรนด์ ดังนั้นต้องระวังข้างในของเราดี ๆ เพราะการสร้างแบรนด์ต้องเริ่มจากตัวเรา”
    “ถ้าตั้งคำถามว่าจะทำอย่างไร หรือมีกระบวนการอย่างไร ใคร ๆ ก็ทำได้ แต่ถ้าตั้งคำถามว่า เราจะทำเพื่ออะไร ทำไปทำไมนั้น เป็นการตั้งคำถามที่สำคัญและผู้สร้างแบรนด์จะต้องตอบให้ได้ เพราะเวลา SE จะส่งมอบคุณค่าให้ลูกค้า เราจะต้องรู้ว่าเราทำเพื่ออะไร และถ้าผู้สร้างแบรนด์มีหลายคนต่อ 1 แบรนด์ แนะนำให้มาทำความเข้าใจให้ตรงกันว่าแบรนด์ของเราจะทำเพื่ออะไร และจะต้องออกมาด้วยความจริงอย่างเป็นธรรมชาติ ที่เรียกว่า การสร้างคุณค่ารวม คือการนำคำตอบบางอย่างที่ว่าเราทำเพื่ออะไร ที่ทุกคนตอบซ้ำ ๆ กัน มาสร้างเป็นแบรนด์ของเรา”
  • คำถาม: จะรู้ได้อย่างไรว่าแบรนด์สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าจริง ๆ
    “อันดับแรกต้องตอบให้ได้ก่อนว่าขายของให้ใคร และ Target Customer คือใคร จากนั้นเราจะต้องเข้าใจลูกค้า เข้าใจความต้องการของลูกค้า โดยต้องเอาตัวเราเข้าไปเป็นตัวเขา เข้าไปอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเขา เพื่อหาข้อมูลแล้วจะสร้างแบรนด์หรือดีไซต์ให้ตอบโจทย์ลูกค้าของเราได้ โดยที่ไม่กดดันลูกค้าว่าจะต้องมาชอบแบรนด์ของเรา”

สรุปการถาม-ตอบจาก: คุณอุ๋ย – นิโลบล ประมาณ กรรมการผู้จัดการ FlowFolk และเจ้าของแบรนด์ม่วนจอย
เรียบเรียงโดย: ทีมงาน SE Thailand

Share