สมาคมธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise Thailand Association: SE Thailand) จัดงานเปิดตัวสมาคมฯ อย่างเป็นทางการ เชื้อเชิญทุกภาคส่วนที่มีใจเพื่อสังคมมาสมัครสมาชิกเพื่อสร้าง “ชุมชนผู้ประกอบการเพื่อสังคม” ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมพรั่งด้วยความร่วมมือจากพันธมิตรภาคเอกชน เพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจเพื่อสังคมไทยอยู่รอดและเติบโต และเป็นกำลังสำคัญในการแก้ปัญหา พัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมเป็นพลังขับเคลื่อนประเทศสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ณ ชั้น 32 ห้อง ไลบรารี่, ดีแทคเฮ้าส์, อาคารจัตุรัสจามจุรี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม 2562
ในงานมีการจัดเสวนา เรื่อง “Connecting the Two Worlds: ก้าวต่อไปของบริษัทเอกชนและธุรกิจเพื่อสังคมสู่ผลกระทบทางสังคมที่ดีกว่าเดิม” โดยตัวแทนจากสมาคมธุรกิจเพื่อสังคม และพันธมิตรหลักซึ่งได้กล่าวถึงการพัฒนาธุรกิจเพื่อสังคมในแง่มุมต่าง ๆ
คุณกฤษดา แสงไชยวุฒิกุล กรรมการ สมาคมธุรกิจเพื่อสังคม กล่าวถึงชื่อหัวข้อการเสวนาว่า การใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันทำให้เกิดการแบ่งโลกเป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งเป็นโลกของการทำธุรกิจ ซึ่งใช้ทรัพยากรธรรมชาติเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตและความสะดวกสบาย และอีกฝั่งหนึ่งเป็นโลกที่คนอีกกลุ่มพยายามช่วยให้โลกมีความยั่งยืน โจทย์ของทุกคนในทุกวันนี้คือจะทำอย่างไรให้โลกสองฝั่งเป็นโลกใบเดียวกันได้ ซึ่งการคาดหวังให้ภาครัฐเข้ามาช่วยลดช่องว่างทางสังคมและสิ่งแวดล้อม ไม่ทันกับความเปลี่ยนแปลงของโลกที่รวดเร็ว การใช้โมเดลทางธุรกิจที่สามารถลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม จึงเป็นทางออกที่จะสามารถรวมโลกทั้งสองฝั่งให้เป็นโลกที่พัฒนาไปอย่างยั่งยืนได้ สมาคมธุรกิจเพื่อสังคมเป็นการรวมตัวของกลุ่มธุรกิจเพื่อสังคม และมุ่งหวังจะเป็นสะพานในการเชื่อมโลกธุรกิจเข้ามาสู่ภาคสังคมและสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด ธุรกิจเพื่อสังคมส่วนใหญ่ตั้งขึ้นโดยผู้ประกอบการที่มี passion ในการแก้ไขปัญหาอย่างมาก แต่ยังขาดปัจจัยหลายอย่างที่จะทำให้การดำเนินงานประสบความสำเร็จ และสามารถขยายผลกระทบเชิงบวกในทางสังคมและสิ่งแวดล้อมได้ การที่บริษัทเอกชนขนาดใหญ่เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กลุ่มธุรกิจเพื่อสังคมก็เป็นทางเลือกหนึ่งในสร้างผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อมของภาคธุรกิจ
บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด ร่วมมือกับสมาคมธุรกิจเพื่อสังคม ด้วยการสนับสนุนองค์ความรู้ที่สั่งสมจากการทำโครงการ dtac Accelerate รวมถึงส่งเสริมการเข้าถึงตลาดด้วยการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการจากธุรกิจเพื่อสังคม และนำสินค้าของธุรกิจเพื่อสังคมเข้าโครงการ dtac Rewards คุณอรอุมา ฤกษ์พัฒนาพิพัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานสื่อสารองค์กรและการพัฒนาอย่างยั่งยืน กล่าวว่าการทำโครงการ dtac Accelerate ทำให้ dtac เข้าใจปัญหาของธุรกิจเพื่อสังคม คือการขาด business model ที่ดีในระยะตั้งต้น และไม่สามารถขยายกิจการได้ในระยะต่อมา องค์ความรู้ที่ dtac สั่งสมมา คือทำอย่างไรให้ใช้เงินทุนที่น้อยเพื่อเข้าถึงฐานนักลงทุนที่ใหญ่ได้ ในประเด็นการจัดซื้อจัดจ้างจากธุรกิจเพื่อสังคม คุณอรอุมาเห็นว่าหากบริษัทใหญ่ ๆ เปลี่ยนมาจัดซื้อสินค้าและบริการจากธุรกิจเพื่อสังคม เพียง 1 – 5% ของการจัดซื้อทั้งหมดของบริษัทก็มีมูลค่ามหาศาล และสามารถพัฒนาภาคธุรกิจเพื่อสังคมได้ นอกจากนี้ dtac ยังมองแนวทางการร่วมมือกับธุรกิจเพื่อสังคมว่าต้องอยู่บนฐานของความร่วมมืออย่างเท่าเทียม (equal partnership) เพราะธุรกิจเพื่อสังคมจะเข้าใจปัญหาและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่า การร่วมมือกันจะทำให้ภาคธุรกิจสามารถสร้างผลกระทบทางสังคมได้
บริษัท เดอะ นีลเส็น คอมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทด้านการวัดและการวิเคราะห์ข้อมูลระดับโลก ให้การสนับสนุนด้วยการแบ่งปันข้อมูลตลาดและมุมมองการตลาดให้กับธุรกิจเพื่อสังคม คุณสมวลี ลิมป์รัชตามร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ นีลเส็น คอมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่าข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วขึ้นทุกวัน ซึ่งธุรกิจเพื่อสังคมเองก็ต้องปรับตัวให้เท่าทันกับแนวโน้มด้านการตลาดด้วย ดังนั้นการเข้าใจว่าผู้บริโภคต้องการอะไร และจะมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างไรในอนาคต จะทำให้ธุรกิจเพื่อสังคมสามารถสร้างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคจริง ๆ ยกตัวอย่างเช่น ผลการศึกษาในปีที่ผ่านมาพบประเด็นที่เป็นโอกาสในอนาคต เช่น ความต้องการของพลเมืองสูงวัย โอกาสของธุรกิจในเมืองรอง (second-tier cities) เป็นต้น คุณสมวลีได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “สังคมปัจจุบันเป็นสังคมของการแบ่งปัน การแข่งขันทางธุรกิจแบบดั้งเดิมไม่ตอบสนองกับบริบททางสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ความร่วมมือจะเป็นสิ่งที่สำคัญ ทำให้ธุรกิจเกิดการเติบโตและสามารถแข่งขันไปพร้อม ๆ กัน”
บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ร่วมมือกับสมาคมธุรกิจเพื่อสังคม ผ่านการจัดกิจกรรมถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมของธุรกิจเพื่อสังคมในตลาดค้าปลีก และการสนับสนุนพื้นที่เพื่อเผยแพร่และส่งเสริมการตลาดของธุรกิจเพื่อสังคม ศาสตราภิชาน วิชา หาญอมรรุ่งเรือง ที่ปรึกษาด้านระบบการบริหารจัดการอาคาร กล่าวว่าสยามพิวรรธน์ ยึดมั่นในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainability) สร้างคุณค่าสมประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย (Creating Shared Value) ตั้งแต่ พันธมิตรทางธุรกิจที่ร่วมรังสรรค์ (Co-creation) คู่ค้า ชุมชน สังคม เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) ยกระดับคุณภาพชีวิตและความสามารถของคนไทย ที่ผ่านมาสยามพิวรรธน์ให้การสนับสนุนในการใช้พื้นที่ภายในศูนย์เพื่อเปิดโอกาสให้คนไทยที่มีความคิดสร้างสรรค์ได้พัฒนาศักยภาพและเป็นที่รู้จัก อีกทั้งยังมุ่งมั่นที่จะแบ่งปันองค์ความรู้และประสบการณ์ในด้านธุรกิจค้าปลีก เพื่อถ่ายทอดความรู้และความเชี่ยวชาญในธุรกิจผ่านสยามพิวรรธน์ อคาเดมี ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพบุคลากรในธุรกิจค้าปลีกให้พร้อมแข่งขันบนเวทีโลก และนำไปสู่การสร้างรากฐานที่มั่นคง ยั่งยืนของการบริหารจัดการระบบค้าปลีกในอนาคต
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) พร้อมส่งเสริมธุรกิจเพื่อสังคมด้วยการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการทางการเงิน และสนับสนุนด้านการตลาดด้วยการนำเสนอสินค้าและบริการจากสมาชิกของสมาคม เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าบัตรเครดิตของพันธมิตรในการแลกคะแนนสะสมจากบัตรเครดิต ไปจนถึงการพิจารณาสนับสนุนเงินกู้เงื่อนไขพิเศษ หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสมกับธุรกิจเพื่อสังคม เพื่อช่วยให้ธุรกิจเพื่อสังคมสามารถเข้าถึงเงินทุนได้ง่ายขึ้น คุณพูนสิทธิ์ ว่องธวัชชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลสู่ความยั่งยืน กล่าวถึงปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจไม่สามารถเติบโตได้ 2 ประการ ได้แก่ การเข้าถึงแหล่งเงินทุน และการกำกับดูแลกิจการที่ดีเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน ธนาคารกรุงศรีอยุธยาพร้อมที่จะช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยการทำให้ธุรกิจเพื่อสังคมสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ด้วยการพัฒนาโปรแกรมเงินกู้เงื่อนไขพิเศษ และผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจเพื่อสังคม รวมทั้งการแบ่งปันองค์ความรู้ด้านการทำแผนการเงิน แผนธุรกิจ สำหรับการกำกับดูแลกิจการที่ดี ปัจจุบันธนาคารฯ ได้ลงทุนในกิจการที่พัฒนาแอพพลิเคชั่นจัดทำบัญชีให้ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง เป็นการลดภาระให้ผู้ประกอบการ ทำให้สามารถจัดทำรายงานทางการเงินและบัญชีได้ง่ายขึ้น ซึ่งทางธนาคารฯ ก็ยินดีส่งเสริมให้ธุรกิจเพื่อสังคมได้ใช้บริการในต้นทุนที่ต่ำ
สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นพันธมิตรของสมาคมธุรกิจเพื่อสังคม ซึ่งจะพัฒนาโครงการให้คำปรึกษากับธุรกิจเพื่อสังคมโดยคณาจารย์และนักศึกษา รวมทั้งพัฒนาโครงการบ่มเพาะธุรกิจเพื่อสังคมในระยะต่อไป คุณนิกม์ พิศลยบุตร รองผู้อำนวยการ กล่าวว่าธุรกิจเพื่อสังคมต้องผ่านประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ไม่ต่างจาก start up ที่มีประเด็นการวัดผลลัพธ์ทางสังคมเพิ่มเติมเข้ามา การบ่มเพาะและการให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับธุรกิจเพื่อสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะเริ่มต้น ทางศศินทร์มีนโยบาย Sustainability through Entrepreneurial Mindset ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจเพื่อสังคมอยู่แล้ว และระบุถึงเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ว่ามีความแตกต่างจากตัวชี้วัดอื่น ๆ อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากการบรรลุ SDGs จำเป็นต้องอาศัยบทบาทภาคธุรกิจอย่างมาก และการทำธุรกิจในปัจจุบันหากไม่มีการสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสังคมเลยก็ไม่สามารถจะอยู่ได้
นอกจากนี้แล้ว สมาคมธุรกิจเพื่อสังคมยังได้รับความร่วมมือจาก บริษัท เดอะ บอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด Thomson Reuters Foundation บริษัท ชูใจ กะ กัลยาณมิตร จำกัด และ บริษัท ลีโอ เบอร์เนทท์กรุ๊ป จำกัด ซึ่งสนับสนุนองค์ความรู้ด้านการพัฒนาประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจในมิติต่าง ๆ ได้แก่ การบริหารจัดการธุรกิจ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ และการโฆษณาประชาสัมพันธ์
